เพราะคำดูถูก ที่สร้างสรรค์
มีไว้พัฒนาตัวเองสู่ความสำเร็จ
แต่คำดูถูกที่พัง เราก็แค่ปัดทิ้ง
.
สิ่งแรกที่สังเกตได้คือ..เรากำลังดูถูกตัวเองอยู่หรือเปล่า
เช่น “เพราะเป็นฉันมันถึงไม่สำเร็จไง”
“ก็ฉันทำไม่ได้เหมือนเขาไง”
.
เพราะเมื่อไหร่ ที่เราเลือกดูถูกตัวเองซ้ำๆ
มันอาจกลายเป็นความเชื่อ ที่ยึดไว้แบบไม่รู้ตัว
และอาจทำให้คนรอบข้าง คิดกับเราแบบนั้นได้เช่นกัน
.
ฉะนั้น
คุณสามารถก้าวข้ามคำดูถูก ที่เกิดจากตัวเองก็ดี หรือใครก็ดี
และชนะคำดูถูกนั้น อย่างฉลาดได้
ด้วยเทคนิค 3 ข้อต่อไปนี้
1. ขอบคุณคำติชม ที่เป็น “ทอง”
หากมีใครมาติเตียนคุณ อยากให้คุณลองชั่งน้ำหนักคำพูดนั้น
ว่ามันจริงหรือไม่ เจตนาคือสิ่งใด
.
แทนที่เราเลือกมานั่งโกรธ
แต่ เราสามารถเลือกนำคำติตรงนี้ มาปรับให้กลายเป็น “ทอง”
เพื่อการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้
.
เช่น “เธอพูดตรงเกินไป จนมันกลายเป็นห้วน"
การเป็นคนตรง เป็นสิ่งที่ดี
แต่ห้วน เป็นสิ่งที่ควรแก้ไข เพราะ..
อาจทำให้รู้สึก ไม่ให้เกียรติกันด้วยคำพูดได้
2. เปลี่ยนความเชื่อจากตัวเองก่อนว่า
“เราสามารถทำเป้าหมายของเราสำเร็จได้”
“เราเป็นคนที่ตั้งใจ ในการทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด ในเวอร์ชั่นของเราได้”
.
เพราะเมื่อเรา มีความเชื่อที่ดีต่อตัวเองแล้ว
การกระทำ จะสะท้อนความเชื่อนั้นออกมา ให้คนอื่นรับรู้เอง
.
และ
.
3. มองหาข้อดีของคำดูถูกเหยียดหยาม ที่เกิดขึ้นสิว่า..
มันสอนให้เราได้เรียนรู้สิ่งใดเพิ่มขึ้น
เพื่อการพัฒนา ของตัวเองได้บ้าง
.
ผู้ก่อตั้ง Facebook เจ้าพ่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค
อย่าง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
เคยบอกไว้ว่า..
“อย่าปล่อยให้คนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักคุณดี มาทำลายจุดยืนของคุณ”
เพราะสุดท้ายแล้ว คุณรู้จักตัวคุณดีที่สุด
.
เมื่อใครก็ตาม เริ่มใช้คำต่างๆนานา ในการดูถูกเรา
ลองนำ 3 ข้อนี้ไปปรับใช้กันดูนะคะ
แล้วลองพิจารณา ดูสิว่า..
คำดูถูกไหนเป็น “ทอง” ที่คู่ควรแก่การพัฒนา
และคำดูถูกไหนเป็น “ขี้” ที่ควรปัดทิ้งไป